สื่อสากล จัดงาน “MOTOR EXPO 2007 GRAND CHARITY NIGHT”

บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24” มอบรายได้จากค่าบัตรผ่านประตู “วันมหากุศล” (GRAND CHARITY DAY) และบัตรร่วมงาน “คืนมหากุศล” (MOTOR EXPO 2007 GRAND CHARITY NIGHT) รวม 2.2 ล้านบาท สมทบทุน โครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกแห่งความซื่อสัตย์สุจริตให้แก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป รวมทั้งเพื่อสร้างแนวร่วมในการต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบในสังคมไทย

บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 24” มอบรายได้จากค่าบัตรผ่านประตู “วันมหากุศล” (GRAND CHARITY DAY) และบัตรร่วมงาน “คืนมหากุศล” (MOTOR EXPO 2007 GRAND CHARITY NIGHT) รวม 2.2 ล้านบาท สมทบทุน โครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกแห่งความซื่อสัตย์สุจริตให้แก่เยาวชน และประชาชนทั่วไป รวมทั้งเพื่อสร้างแนวร่วมในการต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบในสังคมไทย

โครงการ “ลมหายใจไร้มลทิน” มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกเยาวชน และประชาชนทั่วไป ทุกสาขาอาชีพ ให้มีจริยธรรม และคุณธรรม คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่คิดทุจริต ประพฤติมิชอบ และต่อต้านการทุจริต โดยได้ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสและ ผู้สูงอายุ (สท.) จัดกิจกรรมตาม โครงการดังกล่าว ได้แก่

1. จัดการประกวดข้อเขียน “เรื่องจริงของความสุจริตที่ฉันรู้”
2. จัดการประกวดการจัดทำวีดีทัศน์สารคดีสั้น 10 นาที
3. จัดการประกวดการร้องเพลงประกอบดนตรีตามเพลง “ลมหายใจไร้มลทิน”

โดยจะตัดสินในวันที่ 9 มกราคม 2551 ทางเวบไซท์ www.autoinfo.co.th ของบริษัท สื่อสากล จำกัด สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสคนพิการและผู้สูงอายุ (สท.)และ สภาเด็กและเยาวชน ส่วนพิธีมอบรางวัลจะมีขึ้นในวันที่ 23 มกราคม 2551 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายขวัญชัย กล่าวต่อว่า “สำหรับการจัดงานคืนมหากุศลในปีนี้ดำเนินตามแนวคิด “ตามรอยพ่อ” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา โดยมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากหลายวงการมาร่วมถ่ายทอดหลักการการดำเนินชีวิตแบบพอเพียงของตนเอง ดังรายละเอียดต่อไปนี้

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

“คนส่วนใหญ่ มักจะอ้างว่า ไม่ว่าง ไม่มีเวลาจะปฎิบัติธรรม แต่ในหลวงของเราซึ่งทรงรับพระราชภาระในการดูแลประชาชน กว่า 60 ล้านคน ตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา กลับทรงปฎิบัติรธรรมได้เป็นกิจวัตร ซึ่งก่อนที่จะทรงงานทุกครั้งจะทรงไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ พระราชจริยวัตรนี้ สะท้อนให้เห็นว่าทรงให้ความสนพระทัยในเรื่องนี้อย่างมาก“

“เมื่อพระองค์ได้ทรงจุดแสงสว่างแห่งธรรม ประดุจประทีปส่องสว่างอยู่กลางใจคนไทยมาตลอดระยะเวลา 60 ปี ไม่มีวันใดที่จะทรงว่างเว้น จึงเป็นหน้าที่ของข้าแผ่นดินทุกคนที่ควรช่วยกันรักษาประทีปแห่งธรรมนี้ ให้ส่องสว่างในใจคนไทยสืบไป“

ไดอาน่า จงจินตนาการ
ดารานักแสดง

“ทุกวันนี้พยายามปฎิบัติตามแนวทางพระราชดำรัสเรื่อง ความพอเพียง เพราะคำว่าพอเพียงหรือไม่ คงอยู่กับตัวเรา ใครจะมาบอกไม่ได้ว่าพอหรือยัง หรือว่าพอได้แล้ว พอเพียงคงเป็นเหมือนนิสัย หรือ ความประพฤติของเราเองค่ะ“

“พระราชดำรัสของพระองค์ท่านเรื่องนี้ ก็เป็นความจริงในชีวิตที่หลายคนลืมมองกัน พอเพียง กับคำว่าเพียงพอ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็แล้วแต่ ขอแค่รู้จักพอแล้วคุณก็จะได้พบกับความสุขที่แท้จริงค่ะ เพียงแต่ขอให้แยกแยะให้ได้ว่า “ความต้องการ” กับ “ความจำเป็น ” คืออะไร GET WHAT YOU “NEED”, NOT WHAT YOU “WANT” แล้วเราก็จะมีความสุขที่ได้ดำเนินชีวิต ตามคำสอนของพระองค์ท่านค่ะ“

ฉัตรชัย ตะวันธำรง
รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ ทีไอทีวี

“ผมเชื่อว่า กระแสพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดนั้นเปรียบเสมือนแสงสว่างทางปัญญาที่ส่องนำพี่น้องชาวไทยทุกคน ให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่มืดมิด และยากลำบากมาได้นับครั้งไม่ถ้วน“

“สำหรับผมซึ่งได้น้อมเกล้าฯ ตามรอยพระราชดำรัสที่พระองค์ทรงพระราชทานเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ความว่า “เมื่อมีโอกาส และมีงานให้ทำควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใดไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริง ๆ นั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่มีความขยัน ซื่อสัตย์ สุจริตก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น“

“ด้วยพระราชดำรัสของพระองค์ท่านทำให้ผมมีพลังใจกล้าที่จะทำทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะยากเพียงใด โดยมีความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง ซึ่งหมายถึงเราต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่องานที่ทำ ต่อสังคม เป็นความซื่อสัตย์ที่อยู่บนความรับผิดชอบในการดำเนินชีวิตและทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดครับ“